【节日导读】水灯节举办时间为泰国阴历十二月十五日。泰国阴历十二月,恰逢是汛期,河水超出两岸,很远就能够看到河流。同时,月圆之日,月光照在河面上,非常美丽,适合观赏。
对水灯节产生于何时,并没有确切的记载,但可以确定的是,水灯节的习俗自素可泰时期就一直流传至今。兰甘亨碑文上有记载,把这种习俗叫做“迎神礼”,同时,这个活动是素可泰时期最大的娱乐活动。因而可以确定,这个活动就是水灯节。
关于水灯节的传说很多,流传最广的是,素可泰王朝的兰甘亨国王的王妃诺帕玛为了表达对佛的诚意,用芭蕉叶做了一只莲花状的小船,船上放有水果、鲜花、茶油、香烛,献给国王,以便国王在月圆之夜用之祭祀河神。国王看到漂亮的水灯后龙颜大悦,下令全国效仿,并规定此夜为全国的水灯节。
在水灯节当天,人们用芭蕉叶、面包、泡沫等材料制成水灯,到了晚上,再将水灯放到水面上。现在,为了保护环境,泰国提倡用天然材料来制作水灯。人们用面包、椰子壳等制作水灯,然后用花朵、香、烛进行装饰。到晚上,人们拿着做好的水灯到专门放水灯的河道去放。在放水灯前,人们先许愿,希望自己能如愿以偿,接着把水灯放到河里,让其随水漂走。通常情况下,人们还会在水灯上放钱,表示对河神的感谢。
漂水灯,对于农民来说,是希望河神提供充足的水源;对于青年男女而言,是希望找到如意的伴侣;大家都希望让自己过去不好的行为和事情随水灯漂走。
วันลอยกระทง
าหนดวันลอยกระทง
วันลอยกระทง ของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น ๑๕ ่า เดือน ๑๒ ตามปฏิทินจันทรคติไทย หรือถ้าเป็นปฏิทินจันทรคติล้านนาจะตรงกับเดือนยี่ และหากเป็นปฏิทินสุริยคติจะราวเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเดือน ๑๒ เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจึงเย็นสบาย และอยู่ในช่วงฤดูาหลาก มีาขึ้นเต็มฝั่ง าให้เห็นสายาอย่างชัดเจน อีกทั้งวันขึ้น ๑๕ ่า เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง าให้สามารถเห็นแม่าที่มีแสงจันทร์ส่องกระทบลงมา เป็นภาพที่ดูงดงามเหมาะแก่การชมเป็นอย่างยิ่งและวันลอยกระทงปี ๒๕๖๓ ตรงกับวันที่ ๓๑ ตุลาคม
ประวัติวันลอยกระทง
ประวัติวันลอยกระทงนั้น ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่ เมื่อใด แต่เชื่อว่าประเพณีนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามาแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า "พิธี จองเปรียญ" หรือ "การลอยพระประทีป" และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ ๑ กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย าให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน
ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้ทรงสันนิษฐานว่า พิธีลอยกระทงเป็นพิธีของพราหมณ์ จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า ๓ องค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้าพระพุทธศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงให้มีการชักโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุและลอยโคมเพื่อบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้าก่อนที่นางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วงจะคิดค้นประดิษฐ์กระทงดอกบัวขึ้นเป็นคนแรกแทนการลอยโคม ดังปรากฏในหนังสือนางนพมาศที่ว่า
"ครั้นวันเพ็ญเดือน ๑๒ ข้าน้อยได้กระาโคมลอย คิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมสนมานัลทั้งปวงจึงเลือกผกาเกสรสีต่าง ๆ มา ประดับเป็นรูปกระมุทกลีบบานรับแสงจันทร์ใหญ่ประมาณเท่ากงระแทะ ล้วนแต่พรรณดอกไม้ซ้อนสีสลับให้เป็นลวดลาย..."
เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯ ทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่างและให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นเป็นประาทุกปี โดยให้ใระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่างและให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นเป็นประาทุกปี โดยให้ใช้กระทงดอกบัวแทนโคมลอย ดังพระราชารัสที่ว่า "ตั้งแต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยาดับกษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลาหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน ๑๒ ให้าโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน" พิธีลอยกระทงจึงเปลี่ยนรูปแบบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จาก http://www.516tx.com/tg/2314.html
ประเพณีลอยกระทงสืบต่อกันเรื่อยมา จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชกาลที่ ๑ ถึง รัชกาลที่ ๓ พระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนขุนนางนิยมประดิษฐ์กระทงใหญ่เพื่อประกวดประชันกัน ซึ่งต้องใช้แรงคนและเงินานวนมาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลือง จึงโปรดให้ยกเลิกการประดิษฐ์กระทงใหญ่แข่งขันและโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์าเรือลอยประทีปถวายองค์ละาแทนกระทงใหญ่ และเรียกชื่อว่า "เรือลอยประทีป" ต่อมาในรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๖ ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง จนมาถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรราชพิธีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง จนมาถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ที่ทรงกระาเป็นการส่วนพระองค์ตามพระราชอัธยาศัย
เหตุผลและความเชื่อของการลอยกระทง
สาเหตุที่มีประเพณีลอยกระทงขึ้นนั้น เกิดจากความเชื่อหลาย ๆ ประการของแต่ละท้องที่ ได้แก่
๑.เพื่อแสดงความานึกถึงบุญคุณของแม่าที่ให้เราได้อาศัยากิน าใช้ ตลอดจนเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา ที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงไปในา อันเป็นสาเหตุให้แหล่งาไม่สะอาด
๒.เพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ และได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้บนหาดทรายแม่านัมมทานที ซึ่งเป็นแม่าสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่าแม่าเนรพุททา
๓.เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เพราะการลอยกระทงเปรียบเหมือนการลอยความทุกข์ ความโศกเศร้า โรคภัยไข้เจ็บ และสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ลอยตามแม่าไปกับกระทง คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์
๔.เพื่อเป็นการบูชาพระอุปคุต ที่ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคา รพ ซึ่งาเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล โดยมีานานเล่าว่า พระอุปคุตเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่ง ที่มีอิท ธิฤทธิ์มาก สามารถปราบพญามารได้
๕.เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
๖.เพื่อความบันเทิงเริงใจ เนื่องจากการลอยกระทงเป็นการนัดพบปะสังสรรค์กันในหมู่ผู้ไปร่วมงาน
๗.เพื่อส่งเสริมงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ เพราะเมื่อมีเทศกาลลอยกระทง มักจะมีการประกวดกระทงแข่งกัน าให้ผู้เข้าร่วมได้เกิดความคิดแปลกใหม่และยังรักษาภูมิปัญญาพื้นบ้านไว้อีกด้วย
ประเพณีลอยกระทงในแต่ละภาค
ลักษณะการจัดงานลอยกระทงของแต่ละจังหวัดและแต่ละภาคจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันคือ
วันลอยกระทง ภาคเหนือ (ตอนบน) จะเรียกประเพณีลอยกระทงว่า "ยี่เป็ง" อันหมายถึงการาบุญในวันเพ็ญเดือนยี่ (เดือนยี่ถ้านับตามล้านนาจะตรงกับเดือนสิบสองในแบบไทย) โดยชาวเหนือจะนิยมประดิษฐ์โคมลอยหรือที่เรียกว่า "ว่าวฮม" หรือ "ว่าวควัน" โดยการใช้ผ้าบาง ๆ แล้วสุมควันข้างใต้ ให้โคมลอยขึ้นไปในอากาศ เพื่อเป็นการ บูชาพระอุปคุต ซึ่งเชื่อกันว่าท่านาเพ็ญบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเล ลึกหรือสะดือทะเล ตรงกับคติของชาวพม่า
วันลอยกระทง จังหวัดตาก จะประดิษฐ์กระทงขนาดเล็ก แล้วปล่อยลอยไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เรียงรายเป็นสาย เรียกว่า "กระทงสาย"
วันลอยกระทง จังหวัดตาก จะประดิษฐ์กระทงขนาดเล็ก แล้วปล่อยลอยไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เรียงรายเป็นสาย เรียกว่า "กระทงสาย"
วันลอยกระทง จังหวัดสุโขทัย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องประเพณีลอยกระทง ด้วยความเป็นจังหวัดต้นาเนิดของประเพณีนี้ โดยการจัดงาน ลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ ที่จังหวัดสุโขทัยถูกฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.๒๕๒๐ ซึ่งาลองบรรยากาศงานมาจากงานลอยกระทงสมัยกรุงสุโขทัยและหลังจากนั้นก็มีการจัดงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟขึ้นที่จังหวัดสุโขทัยทุก ๆ ปี มีทั้งการจัดขบวนแห่โคมชักโคมแขวน การเล่นพลุ ตะไล และไฟพะเนียง
วันลอยกระทง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ งานลอยกระทงจะเรียกว่า เทศกาลไหลเรือไฟ โดยจัดเป็นประเพณียิ่งใหญ่ทุกปีในจังหวัดนครพนม มีการาหยวกกล้วย หรือวัสดุต่าง ๆ มาตกแต่งเรือและประดับไฟอย่างสวยงามและตอนกลางคืนจะมีการจุดไฟปล่อยกระทงให้ไหลไปตามาาโขง
วันลอยกระทง กรุงเทพมหานคร มีการจัดงานลอยกระทงหลาย แห่ง แต่ที่เป็นไฮไลท์อยู่ที่ "งานภูเขาทอง" ที่จะเนรมิตงานวัดเพื่อเฉลิมฉลองประเพณีลอยกระทง ส่วนใหญ่จัดอยู่ราว ๗-๑๐ วัน ตั้งแต่ ก่อนวันลอยกระทงจนถึงหลังวันลอยกระทง
วันลอยกระทง ภาคใต้ มีการจัดงานลอยกระทงในหลาย ๆ จังหวัด เช่น าเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีงานยิ่งใหญ่ทุกปี
กิจกรรมวันลอยกระทง(www.xing528.com)
ในปัจจุบันมีการจัดงานลอยกระทงทุก ๆ จังหวัด ซึ่งจะมีกิจกรรมแตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่ แต่กิจกรรมที่มีเหมือน ๆ กันก็คือ การประดิษฐ์กระทง โดยาวัสดุต่าง ๆ ทั้งหยวกกล้วย ใบตอง หรือจะเป็นกาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว ฯลฯ มาประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ ธูป เทียน เครื่องสักการบูชา ให้เป็นกระทงที่สวยงาม ภายหลังมีการใช้วัสดุโฟมที่สามารถประดิษฐ์กระทงได้ง่าย แต่จะาให้เกิดขยะที่ย่อยสลายยากขึ้น จึงมีการรณรงค์ให้เลิกใช้กระทงโฟมเพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ก่อนจะมีการดัดแปลงวัสดุากระทงให้หลากหลายขึ้น เช่น กระทงขนมปัง กระทงกระดาษ กระทงพลาสติกชนิดพิเศษ เพื่อให้ย่อยสลายง่ายและไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อไปถึงสถานที่ลอยกระทง ก่อนาการลอยก็จะอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนาขอให้ประสบความาเร็จ หรือเสี่ยงทายในสิ่งต่าง ๆ จากนั้นจึงปล่อยกระทงให้ลอยไปตามสายาและในกระทงมักนิยมใส่เงินลงไปด้วย เพราะเชื่อกันว่าเป็นการบูชาพระแม่คงคา
นอกจากการลอยกระทงแล้ว มักมีกิจกรรมประกวดนางนพมาศ อันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเพณีลอยกระทง และตามสถานที่จัดงานจะมีการประกวดกระทง ขบวนแห่ มหรสพสมโภชต่าง ๆ บางแห่ง อาจมีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองด้วย
จาก http://www.tyouqu.com/jingcaihuodong/44/1615/1.html
วันลอยกระทงปี ๒๕๖๓ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคม มาย้อนดู ประวัติวันลอยกระทง เนื้อเพลงลอยกระทง รวมถึงกิจกรรมวันนี้
วันลอยกระทง ของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น ๑๕ ่า เดือน ๑๒ ตามปฏิทินจันทรคติไทยหรือถ้าเป็นปฏิทินจันทรคติล้านนาจะตรงกับเดือนยี่และหากเป็นปฏิทินสุริยคติจะราวเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเดือน ๑๒ เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจึงเย็นสบายและอยู่ในช่วงฤดูาหลาก มีาขึ้นเต็มฝั่งาให้เห็นสายาอย่างชัดเจน อีกทั้งวันขึ้น ๑๕ ่า เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง าให้สามารถเห็นแม่าที่มีแสงจันทร์ส่องกระทบลงมา เป็นภาพที่ดูงดงามเหมาะแก่การชมเป็นอย่างยิ่งและวันลอยกระทง ๒๕๖๓ ตรงกับวันที่ ๓๑ ตุลาคม
เพลงวันลอยกระทง
เมื่อเราได้ยินเพลง "าวงลอยกระทง" ที่ขึ้นต้นว่า "วันเพ็ญเดือน สิบสองานองเต็มตลิ่ง..." นั่นเป็นสัญญาณว่าใกล้จะถึงวันลอยกระทงแล้ว ซึ่งเพลงนี้เป็นที่คุ้นหูของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพราะในต่างประเทศมักเปิดเพลงนี้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อแสดงถึงความเป็นประเทศไทย
เพลงาวงวันลอยกระทงแต่งโดยครูแก้ว อัจฉริยะกุล ผู้ให้านองคือ ครูเอื้อ สุนทรสนาน แห่งสุนทราภรณ์ ซึ่งครูเอื้อได้แต่งเพลงนี้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๔๙๘ ขณะที่ได้ไปบรรเลงเพลงที่บริเวณคณะบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีผู้ขอเพลงจากครูเอื้อ ครูเอื้อจึงนั่งแต่งเพลงนี้ที่ริมแม่าเจ้าพระยา ในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงจึงเกิดเป็น เพลงาวงลอยกระทง ที่ติดหูกันมาทุกวันนี้ มีเนื้อร้องว่า
“วันเพ็ญเดือนสิบสอง านองเต็มตลิ่ง
เราทั้งหลายชายหญิง
สนุกกันจริง วันลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง
ลอยกระทงกันแล้ว
ขอเชิญน้องแก้วออกมาาวง
าวงวันลอยกระทง าวงวันลอยกระทง
บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ”
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม.(๒๕๕๔).ประเพณีวันลอยกระทง.(พิมพ์ครั้งที่ ๒).กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่ง ประเทศไทย.
词汇
จนัทรคติ阳历 าเพ็ญ进行
สรุยิคติ阴历 บริกรรม念诵符咒
ฤดูหลาก洪水季节 ฟื้นฟู恢复
ศลิาจารึก石碑 าลอง庆祝、模仿
สนันิษฐาน推断 เนรมิต创造、点化
พระพุทธบาท佛陀脚印 พิทกัษ ์保护
ประชนั比赛 เส่ียงทาย 占卜
ปฏิกลู污秽 มหรสพ娱乐、文娱
สกัการะ 供奉 สมโภซ庆典、宴会
อิทธิฤทธิ์魔力 จดุพลุ燃放烟花
ภมูิปัญญา智力 าวง喃旺舞
สมุควนั点起篝火 านอง曲调
免责声明:以上内容源自网络,版权归原作者所有,如有侵犯您的原创版权请告知,我们将尽快删除相关内容。